FITTING & LIGHTING

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2012 เวลา 18:22 น. ผู้ดูแลระบบ
พิมพ์

k22_2new
1.หลอดไฟแบบฟลูออเรเซนท์ หรือที่เรียกติดปากกันว่าหลอดนีออนนี่ล่ะ
Step1 ตรวจด้วยการ ให้ลองขยับหลอดดู หากไฟติดแสดงว่าเป็นที่ขั้วหลวม (หากหลวมมากๆแนะนำให้หาช่างมาเปลี่ยนขั้วใหม่)
Step2 หากยังไม่ติดลองดู ที่หลอดไฟตรงขั้วหลอดว่าเป็นรอยดำๆ หรือไม่ หากมีนั้นแสดงว่าหลอดหมดอายุ ให้เปลี่ยนหลอดใหม่ได้เลยไม่ต้องเสียดาย
Step3 หากลอง2วิธีแล้ว ยังไม่หายอาจเป็นที่อุปกรณ์ที่เรียกว่าสตาร์ทเตอร์ (จะเป็นกระปุกพลาสติกทรงกระบอก ซ่อนอยู่ที่แป้นโคมไฟ แต่หากไม่เจอแสดงว่าเป็นรุ่นสตาร์ทเตอร์ แบบอิเลคทรอนิค ซึ่งติดอยู่ภายในเครื่องให้ข้ามข้อนี้ไปเลย)ให้ลองหมุนสตาร์ทเตอร์ไปทวนเข็มนาฬิกาและดึงออกมาเพื่อนำไปเทียบที่ร้านอุปกรณ์ไฟเปลี่ยนตัวใหม่ มาเปลี่ยน
Step4 หากลองทุกวิธีแล้ว ยังไม่หายอาจเป็นเพราะสายไฟขาด หรือเกิดปัญหาในระบบ     อิเลคทรอนิคภายในเครื่อง  ต้องเรียกช่างมาซ่อมแล้วล่ะ

2. หลอดไฟแบบไส้
Step1 ตรวจด้วยการ ดูที่ไส้หลอดขาดหรือไม่ ดูง่ายๆว่ามีเศษลวดเล็กหรือผงอะไรตกอยู่ในหลอดหรือไม่ นั้นแสดงว่าไส้ขาดแล้ว หากพบให้เปลี่ยนหลอดสถานเดียว
Step2 อาจเกิดจากขั้วหลอดหลวม เนื่องจากสปริงที่ดันขั้วหลอดให้ไฟมาแตะที่หลอดหดตัว ลองใช้ไขควงงัดขั้วหลอดให้ยื่นออกมามากขึ้น จนสัมผัสโดนหลอดได้เท่านี้ไฟก็สว่างตามเดิมแล้ว(หากไม่มั่นใจในความปลอดภัยซื้อขั้วหลอดใหม่ดีกว่า)

ความรู้เกี่ยวกับหลอดไฟหมดอายุ

* รู้มั๊ยสาเหตุที่หลอดฟลูออเรสเซนต์ ก่อนดับ จะให้แสงน้อยลง และมักกระพริบ แต่ไม่ดับเลยทีเดียว สาเหตุเป็นเพราะสาเหตุการสว่างของหลอดเกิดจากการเรืองแสงของตัวก๊าซหรือสารปรอทในหลอดเมื่อก๊าซเริ่มเสื่อม ความสว่างจะลดลงนั่นเอง

* การเปิดปิดหลอดฟลูออเรสเซ้นส์ บ่อยๆจะทำให้อายุการใช้งานหลอดสั้นลงจริงหรือ ?
ทุกครั้งที่เปิดสวิชท์ไฟสตาร์ทการทำงาน ส่งผลให้หลอดอายุหลอดจะสั้นลงไปทีละน้อยๆ โดยเฉพาะกับบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมักจะมีการเผาไส้หลอดที่ไม่เพียงพอ