การเลือกซื้อ Hood ดูดควัน

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2012 เวลา 18:24 น. ผู้ดูแลระบบ
พิมพ์



1. ดูตามลักษณะการติดตั้ง

1 แขวนผนัง นิยมใช้มากเพราะเหมาะกับติดเข้ากับผนังหรือยึดใต้ตู้ลอยเหนือเตาไฟมีดีไซน์และขนาดหลากหลาย

(1)แบบกระโจม (Standard Hood) เป็นแบบทั่วไปที่เน้นการโชว์ดีไซน์สวยงาม

(2)แบบซ่อนในตู้ลอย (Build in hood) เหมาะกับบ้านที่ไม่ต้องการโชว์ให้เห็นตัวเครื่อง เพื่อให้งานดูกลมกลืนไปทั้งห้อง โดยจะซ่อนไว้ในบานตู้ลอยบนผนัง


2 แขวนลอย แขวนลอยกับเพดานจึงเหมาะใช้

กับเคาน์เตอร์ครัวที่เป็นเกาะกลางแบบ ISLANDมาก

แต่มีข้อจำกัดกับบ้านที่มีฝ้าสูงมากเกิน 3 ม. จะติดตั้งไม่ได้




2. ดูที่ขนาด ขึ้นอยู่กับรูปทรงและดีไซน์แต่ส่วน

ใหญ่มีมาตรฐานใกล้เคียงกันเพื่อรองรับกับขนาดเตาไฟและชุดครัวสำเร็จรูป

ความกว้าง มีหลายขนาดขึ้นกับหน้ากว้างของเตา มาตรฐานมีขนาดดังนี้ 60ซม.สำหรับเตาเดียว ,90 ซม.สำหรับเตาคู่ ,120 ซม.สำหรับเตาใหญ่หรือครัวที่ปรุงมาก

ความลึก แบบติดผนังมีขนาดเดียวประมาณ 50 ซม.เพื่อให้พอดีกับการซ่อนเก็บในตู้ลอย ส่วนแบบลอยจะมีหลากหลายขนาดขึ้นกับตามดีไซน์ ควรดูให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้ง

ความสูง สามารถปรับได้ตามพื้นที่ติดตั้ง ที่เหมาะสมควรติดตั้งสูงจากเตาไฟประมาณ70-75 ซม.




3. สังเกตระบบระบายควัน ซึ่งมี2ระบบ

1 ระบายออกสู่ภายนอก เป็นระบบที่ใช้แรงพัดลมดูดและเป่าควันออกไปตามท่อออกนอกห้อง เนื่องจากใช้งานง่ายและราคาไม่แพงจึงเป็นที่นิยม


2 ระบายอากาศแบบหมุนเวียนภายในห้อง ป็นระบบใหม่ที่เพิ่มฟิวล์เตอร์คาร์บอนกรองควัน ไอน้ำมันและกลิ่น แล้วระบายกลับสู่ห้องได้เลย แต่ก็มีข้อจำกัดในการดูดกลิ่นควันได้ระดับหนึ่ง จึงเหมาะกับการอุ่นและปรุงเล็กๆน้อยๆ



4. เลือกวัสดุกรุภายนอก เลือกตาม ดีไซน์ ความทนทาน และคุณสมบัติในการเช็ดทำความสะอาดโดยทั่วไปจะมี

1 สเตนเลส เป็นวัสดุที่ทนทาน ต่อสนิม การกัดกร่อนจากสารเคมีเหมาะมากกับชุดครัวและhood ไม่จับคราบน้ำมันจึงเช็ดทำความสะอาดง่าย

2 เหล็กเคลือบสี สามารถทำสีได้หลากหลายสี มีราคาถูกกว่าสเตนเลส แต่อาจเกิดสนิมและสีลอกล่อนได้

3 กระจก ทำจากกระจกลามิเนต จึงทนทานและเช็ดถูทำความสะอาดง่าย ด้วยความที่โปร่งใสและบาง




5. เลือกที่มีปุ่มปรับรระดับแรงพัดลมดูด ในระดับที่เหมาะกับการใช้งาน
ซึ่งมีตั้งแต่ 1ไปจนถึงรุ่นที่ปรับ

ค่าความละเอียดได้ถึง 4 ระดับ ตามการใช้งาน

1-เหมาะกับดูดไอน้ำ ความร้อนการการต้มน้ำ

2- เหมาะกับการต้ม ชา กาแฟ ที่มีกลิ่นเล็กน้อย               

3-เหมาะกับการปรุงหรืออุ่นอาหาร

4-เหมาะกับการผัด ปรุงอาหารที่เกิดควันและกลิ่น


6 . เลือกกำลังวัตต์ มีผลกับความแรงในการดูดควรศึกษาลักษณะการติดตั้ง ความยาวท่อ และใช้งานในครัวให้เหมาะด้วย


กำลังวัตต์
ความยาวของท่อระบายอากาศ การใช้งาน
200-250 W ไม่เกิน  1 ม. ครัวแพนทรี่เล็กๆอุ่นอาหาร
300-440 W ไม่เกิน  5 ม. ครัวขนาดใหญ่เตา 4-6 หัว







7. ระบบไส้กรอง

-ไส้กรองคาร์บอน  สามารถช่วยการดัดกลิ่นควันได้ใช้กับรุ่นที่เป็นระบบหมุนเวียนอากาศภายใน ซึ่งใช้งานได้นานเป็นปีๆ เพราะสามารถถอดทำความสะอาดได้

-แผ่นกรองใยไฟเบอร์ สามารถช่วยการดัดกลิ่นควันได้ใช้กับรุ่นที่เป็นระบบหมุนเวียนอากาศภายใน



8. ดูปริมาณลมที่เครื่องดูดได้ (ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง)

จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างอาทิเช่น กำลังวัตต์มอเตอร์ ดีไซน์และชนิดของเครื่องดูดควัน ความยาวของท่อระบายอากาศ เส้นผ่าศูนย์กลางของท่อระบายอากาศ แต่หากเลือกกำลังดูดอากาศที่สูงเกินไปสำหรับห้องครัวก็อาจมีข้อเสียเช่น เสียงที่ดังเกินจำเป็น สิ้นเปลืองพลังงาน ดังนั้นเราจึงควรเลือกกำลังดูดอากาศให้เหมาะสมกับขนาดของห้องครัว โดยมีหลักในการคำนวนดังนี้

กำลังดูดอากาศที่เหมาะสม = ปริมาตรของห้องครัว (กว้าง x ยาว x สูง) x 10 โดยผลลัพธ์มีหน่วยเป็นลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง

TIP

* ความสูงของหน้าHood ควรห่างจากเตาไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 70 ซม. ส่วนเตาแก็สจะมากกว่าคือ 75 ซม.

*ขนาดของท่อระบายควันที่ใช้งานกับเครื่องดูดควันได้มีมาตรฐานที่ 4” 5” 6” และควรใช้แบบที่หุ้มด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ ที่ทนต่อความร้อนได้ดี

*การเดินท่อระบายควันที่ดี ไม่ควรใช้ห่างเครื่องหรือคดงอมาก



แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 14:15 น.