อีกหนึ่งปัญหาที่ตามมาหลังน้ำลด คือคราบสกปรกๆ ตามผนังบ้าน ที่ใครเห็นเป็นต้องร้องยี้ และอดไม่ได้ที่จะต้องลุกขึ้นมาแปลงโฉมบ้านเสียใหม่ด้วยการทาสีบ้าน ถึงแม้ว่าการซ่อมแซมบ้านด้วยการทาสีนี้นั้นจะถูกจัดอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของปฏิบัติการซ่อมแซมบ้าน แต่มันก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความสบายตาและสบายใจ ว่าแล้ว เราจึงขอนำเอาเคล็ดลับดีๆ ในการทาสีบ้านหลังน้ำท่วมมาฝากกัน
1. อันดับแรก ควรล้างคราบสกปรกที่เกาะแน่นบนผนังบ้านออกให้หมดเสียก่อน โดยใช้ฟองน้ำกับน้ำสบู่ เช็ดถูให้สะอาดแล้วฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาผสมสารฟอกขาว 1 ถ้วยต่อน้ำสะอาด 5 แกลลอน เมื่อเช็ดถูแล้ว พบว่ามีฝุ่นสีหรือมีสีหลุดยุ่ยออกมาเป็นแผ่น แสดงว่าสีผนังเสีย ต้องเช็ดเอาฟิล์มสีออก แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง (อย่างน้อย 3-6 เดือน) ก่อนทำการซ่อมสี
2. ก่อนที่จะทำการทาสีบ้านใหม่ ควรแน่ใจเสียก่อนว่าผนังบ้านแห้งสนิทจริงไร้ความชื้น ด้วยวิธีการทดสอบง่ายๆ คือใช้มือสัมผัสแตะดู หากไม่แน่ใจให้ใช้แป้งฝุ่นโรย แล้วดูว่าแป้งฝุ่นจับตัวเป็นก้อนเล็กๆ หรือไม่ แล้วสีของแป้งมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า หากผนังแห้งสนิท แป้งจะเป็นฝุ่นเล็กๆ และไม่เปลี่ยนสี
3. อีกหนึ่งวิธีที่ใช้ได้ผลคือการนำพลาสติกใสมาคลุมปิดทับผนังปูนไว้ประมาณ 1x1 ตารางฟุต จากนั้นนำสก๊อตเทปมาปิดเพื่อไม่ให้อากาศเข้า แล้วทิ้งเอาไว้สักพัก สังเกตว่ามีไอน้ำเกาะอยู่ภายในแผ่นพลาสติกใสหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่ายังมีความชื้นหลงเหลืออยู่ภายในผนัง ไม่ควรทำการทาสีใหม่ ควรทิ้งระยะไปสักพัก แล้วทำการทดสอบด้วยวิธีเดิมอีกครั้ง จนกว่าจะไม่พบไอน้ำมาเกาะ แล้วจึงค่อยลงมือทาสี
4. เมื่อผนังแห้งสนิทแล้ว ให้ทาสีรองพื้นชนิดกันเชื้อราลงไปก่อน แล้วจึงทาทับด้วยสีจริงอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ก็เป็นอันเสร็จ
5. นอกจากนี้ หากผนังบ้านมีร่องรอยการกระแทก ขีดข่วนบนผนังบ้าน อันเกิดจากการเร่งรีบขนของหนีน้ำท่วม สามารถทำการซ่อมแซมด้วยการทาสีตามปกติ
